นวัตกรรมหญ้าหวานในรายการชั่วโมงทำกิน Thai PBS
หญ้าหวานในรายการจุดเปลี่ยน --> สารสกัดจากหญ้าหวานปลอดภัยและดีกว่าสารหวานเทียมอย่างไร
www.youtube.com/watch?v=gJOZ8Ttdcxg
ปลดล็อค หญ้าหวาน จากสมุนไพรอันตรายสู่สมุนไพรสุขภาพ
www.youtube.com/watch?v=VQWUrVNEmoU
หญ้าหวานและสรรพคุณ
www.youtube.com/watch?v=h8o5CV5psys
สารสกัดจากต้นหญ้าหวาน
www.youtube.com/watch?v=3FksXv2_-C4
ช่อง 3 รายการคัดข่าวดี สมุนไพรหญ้าหวาน อีกทางเลือกเพื่อทดแทนน้ำตาล
www.youtube.com/watch?v=25G_OEbHnuU
ที่มา : http://www.coca-cola.co.uk/health/introducing-stevia-sweetener.html
มาแล้วครับสินค้าที่ใช้สารสกัดหญ้าหวานในบ้านเรา
photo via www.facebook.com/LiptonThailand
photo via www.youtube.com/watch?v=Np1L_ROhtqw
photo via www.marketinfo.co.th
photo via www.manager.co.th/
Stevia rebaudiana is herb native to the valley of Paraguay and Brazil. It has been used as a sweetener for approximately 1,500 years, in parts of South America. Stevia leaf is 15 to 20 times sweeter than sugar & its extracts (Stevioside) are around 250 times sweeter than sugar with zero calories. Stevia can be used as all natural sweetener to substitute sugar or artificial sweetener in cooking, baking and beverages such as green tea drink, carbonated drinks, fruit juices, health & sports drinks, yoghurts, desserts, jams & jellies, snacks, candies & confectioneries, chocolates, pastries, cookies, noodles, ketchup, beer, soya sauces, pickled vegetables, chewing gum, toothpaste etc.
In the early 1970s, the Japanese began cultivating stevia as an alternative to artificial sweeteners and have produced stevia sweeteners commercially since 1977. In Japan, stevia accounts for more than 40 percent of the sweetener market, making Japan the largest consumer of stevia. Today stevia is consumed by billions of people from its native origins of Paraguay & Brazil to Japan, Korea, China, Taiwan, Australia, New Zealand, Malaysia, USA, Canada, Russia, France, Germany and other countries. Stevia is likely to become a major source of high potency sweetener for the growing natural food market in the future.
Why Stevia ?
▪ 100% Natural
▪ Safe For Diabetics
▪ No Bitter After Taste
▪ Zero Calories / Zero Fat
▪ Zero Carbohydrates
▪ Non Glycemic
▪ Heat Stable upto 200 C
▪ Sweetness Stability in all Production Processes
▪ Non Toxic & Non Addictive Sweetener
▪ Prevents Fermentation
▪ Anti Oxidant
Therapeutic Benefits Beyond Sweetness ?
Stevia is not only non-toxic, but has several traditional medicinal uses. The Indian tribes of South America have used it as a digestive aid, and have also applied it topically for years to heal wounds. Re cent clinical studies have shown it can increase glucose tolerance and decrease blood sugar levels. Research and Studies in Brazil showed a blood sugar lowering effect of stevia when patients were given 20 grams a day. Many studies in Korea and Japan showed a blood pressure and cholesterol lowering effect with doses of 250 milligrams of stevioside twice a day.
Stevia and Weight Loss ?
Stevia is an ideal dietary supplement for anyone who wants to lose or maintain their weight. Because it contains no calories, it can satisfy cravings for sweets without adding extra pounds. It is also thought that using stevia may decrease the desire to eat fatty foods as well. Appetite control is another factor affected by stevia supplementation. Some people have found that their hunger decreases if they take stevia drops 15 to 20 minutes before a meal. While scientific studies are lacking in this area, it is presumed that the glycosides in stevia help to reset the appestat mechanism found in the brain, thereby promoting a feeling of satiety or satisfaction. Using stevia to sweeten snacks and beverages can result making weight loss and management
much easier.
Stevia superiority over artificial sweeteners ?
Artificial sweeteners like aspartame (Equal) and sucralose (Spenda) are reported to contribute to certain forms of cancer, cause headaches, suppress body immune system etc. Enough information & research studies are available over internet, to support the above claims. Health conscious Japan now uses stevia rather than aspartame which was banned because of its health risks.
Is Stevia safe ?
It has a history of safe usage dating back 1,500 years. Over a 150 medical studies confirm that it is completely non-toxic & non-carcinogenic (do not cause cancer). Regulatory approvals for the use of Stevia as a food
additive has been received in Japan, South Korea, China, Taiwan, USA, Canada, France, Germany, Australia, New Zealand, Malaysia, Russia, Ukraine,
Kazakhstan, Latin America etc.
“หญ้าหวาน” คุณค่าดีมีต้นขาย
ไทยรัฐ 04/2558
ผู้อ่านไทยรัฐ จำนวนมากที่นิยมปลูกพืชจำพวกสมุนไพรอยากทราบว่า “หญ้าหวาน” เป็นอย่างไร และปัจจุบันมีต้นขายที่ไหนบ้าง เนื่องจากไปหาซื้อแล้วยากมาก ซึ่งเป็นจังหวะที่พบว่ามีผู้ขยายพันธุ์นําต้นออกวางขายประปรายแต่ไม่มากมายเช่นยุคแรกๆ ที่เป็นไม้ยอดฮิตมีต้นขายทั่วไป จึงรีบแจ้งให้แฟนคอลัมน์ทราบอีกทันทีตามระเบียบ
หญ้าหวาน หรือ STEVIA-STEVIA REBAUDINA BERTONI อยู่ในวงศ์ COMPOSITAE เป็นไม้ล้มลุกอายุหลายปี สูง 30-90 ซม. แตกกิ่งก้านสาขาตํ่า ใบเป็นใบเดี่ยว ออกตรงกันข้าม รูปใบหอกกลับหรือรูปใบหอกแกมขอบขนาน ปลายใบกว้างและแหลม โคนใบป้านหรือสอบ ขอบใบหยักเป็นฟันเลื่อย ใบมีรสหวาน
ดอก ออกเป็นช่อตามซอกใบใกล้ปลายยอดและปลายยอดแต่ละช่อประกอบด้วยดอกย่อย 1-3 ดอก มีกลีบเลี้ยงรูปกรวยสีเขียวปลายแยกเป็นแฉกหลายแฉก ดอกโคนเชื่อมกันเป็นหลอด ปลายแยกเป็นกลีบดอก 5 กลีบ ปลายกลีบแหลม สีขาวสดใส ใจกลางดอก มีเกสรเป็นเส้นสีขาวบิดงอโผล่พ้นกลีบดอก เวลามีดอกดูสวยงามแปลกตามาก “ผล” เป็นผลแห้งไม่แตก ภายในมีเมล็ด ดอกออกตลอดปี ขยายพันธุ์ด้วยเมล็ดและปักชำต้น
ใบพบว่ามีสารหวานชื่อ STEVIOSIDE มีความหวานกว่านํ้าตาลทราย 250-300 เท่า แต่ STEVIO-SIDE จะไม่ให้พลังงานทำให้ไม่อ้วน จึงเหมาะสำหรับผู้ป่วยเป็นโรคเบาหวานและโรคไขมันในเส้นเลือดสูง และจากการทดลองในสัตว์ไม่พบพิษเฉียบพลันด้วย จึงเป็นพืชที่มีคุณค่าน่าปลูกเป็นอย่างยิ่ง
หญ้าหวาน มีต้นขาย ที่ตลาดนัดไม้ดอกไม้ประดับ สวนจตุจักร ทุกวันพุธ-พฤหัสฯ บริเวณโครงการ 21 แผง “คุณพร้อมพันธุ์” โทร.08-1854-9640 แต่มีไม่มากนัก ราคาสอบถามกันเอง ปัจจุบันมีการนำเอาใบ “หญ้าหวาน” ไปแปรรูปขายทั่วไปครับ.
“นายเกษตร”
ฮือฮา ! โคคา-โคล่า เปิดตัวโค้กเพื่อสุขภาพในอาร์เจนตินา
ฐานเศรษฐกิจ 08/2556
บริษัท โคคา โคล่า ในอาร์เจนติน่า เปิดตัวน้ำอัดลมเพื่อสุขภาพ ใช้สารทดแทนความหวานที่สกัดมาจากพืชธรรมชาติอย่าง "หญ้าหวาน” เพื่อลดแคลอรี่และน้ำตาลในเครื่องดื่มลง บริษัท โคคา โคล่า ของอาร์เจนติน่า เปิดตัวน้ำอัดลมเพื่อสุขภาพ มีชื่อว่า “โคคา โคล่า ไลฟ์” (Coca Cola Life) ที่ลดแคลอรี่และน้ำตาลในผลิตภัณฑ์ลง แต่รสชาติยังคงเหมือนเดิม โดยผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ล่าสุดนี้ไม่ใช้น้ำตาล แต่ใช้สารทดแทนความหวานที่สกัดมาจากพืชธรรมชาติอย่าง “หญ้าหวาน” แทน
โดยโคคา โคล่า ไลฟ์ยังถือว่าเป็นเครื่องดื่มน้ำอัดลมชนิดแรกที่สามารถนำสารทดแทนความหวานที่สกัดจากพืชธรรมชาติมาใช้ในผลิตภัณฑ์ได้เป็นผลสำเร็จ นอกจากนี้แล้วยังได้เปลี่ยนฉลากของผลิตภัณฑ์โคคา-โคล่า ไลฟ์ให้เป็นสีเขียว จากเดิมที่เป็นสีแดง เพื่อสื่อถึงว่าเครื่องดื่มนี้มีสารสกัดจากธรรมชาติอีกด้วย อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ บริษัทโคคา-โคล่า เคยนำสารทดแทนความหวานซึ่งสกัดจากหญ้าหวานไปใช้ในเครื่องดื่มประเภทอื่นๆ อีก 45 ชนิดแล้ว อย่างเช่น ในเครื่องดื่มวิตามินวอเตอร์ ซีโร่ และแฟนต้า ซีเล็ค
หญ้าหวานเป็นพืชพื้นเมืองทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศปารากวัยในทวีปอเมริกาใต้ ความพิเศษของหญ้าหวาน คือ ส่วนของใบให้ความหวานมากกว่าน้ำตาลถึง 10-15 เท่า แต่ความหวานนี้ไม่ก่อให้เกิดพลังงานแต่อย่างไร นอกจากนี้ ยังมีสารสกัดที่เกิดจากหญ้าหวานชื่อว่า สตีวิโอไซด์ (stevioside) เป็นสารที่ให้ความหวานมากกว่า 200-300 เท่าของน้ำตาล ด้วยความพิเศษของหญ้าหวานจึงเป็นพืชที่ได้รับความสนใจทั้งทางด้านอุตสาหกรรม การแพทย์ ยาสมุนไพร และ เครื่องดื่ม อีกด้วย
"หญ้าหวาน" ใบหวานกว่าน้ำตาล
ไทยรัฐ 09/2553
เมื่อไม่นานมานี้ ผมพอมีเวลาเดินทางไปเยี่ยมเพื่อน ที่มีอาชีพปลูกไม้ดอกไม้ประดับและพืชสมุนไพรหลายชนิด เพื่อให้คนซื้อไปวางขายที่สวนย่าน อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี พบว่ามีพืชสมุนไพรปลูกไว้ด้วยหลายอย่างน่าสนใจ เช่น ต้นเฉาก๊วย ต้นเก๊กฮวยดอกเหลือง รวมทั้ง "หญ้าหวาน" ด้วย ซึ่ง "หญ้าหวาน" ดังกล่าวเคยแนะนำในคอลัมน์ไปนานแล้ว โดยในตอนนั้นมีผู้นำเอาต้นวางขายไม่มากนัก และต่อมา "หญ้าหวาน" ได้ขาดหายไปไม่พบว่ามีต้นวางขายที่ไหนอีกเลย จึงถ่ายภาพนำเรื่องเสนอในคอลัมน์อีกครั้ง
หญ้าหวาน หรือ STEVIA, STEVIA REBAUDIANA BIRTONI อยู่ในวงศ์ COMPOSITAE ลักษณะเป็นไม้ล้มลุกอายุหลายปี สูงตั้งแต่ 30-90 ซม. แตกกิ่งก้านเป็นพุ่มโปร่ง ใบเป็นใบเดี่ยว ออกตรงกันข้ามตามข้อลำต้น เป็นรูปรีแกมรูปขอบขนาน หรือรูปใบหอกปลายและโคนใบแหลม กว้างประมาณ 1-1.5 ซม. ยาว 3-4 ซม. ขอบใบจักเป็นฟันเลื่อย สีเขียวสด ซึ่งใบเมื่อนำไปเคี้ยวจะมีรสหวานมาก
ดอก ออกเป็นช่อที่ปลายยอด ประกอบด้วยดอกย่อยหลายดอก ดอกมีขนาดเล็ก กลีบดอกเป็นสีขาว เวลามีดอกจะดูแปลกตาคล้ายดอกหญ้ามาก "ผล" เป็นผลแห้ง ไม่แตก ภายในมีเมล็ดดอกออกตลอดทั้งปี ขยายพันธุ์ด้วยเมล็ดและปักชำกิ่ง
ใบ ที่มีรสหวานพบว่ามีสารหวานชื่อ STEVIOSIDE ซึ่งหวานกว่าน้ำตาลทราย 250-300 เท่า โดยสาร STEVIOSIDE จะไม่ให้ พลังงานเหมือนกับน้ำตาล ทรายทั่วไป เมื่อรับประทานแล้วไม่ทำให้อ้วน เหมาะเป็นอย่างยิ่งสำหรับผู้ป่วยเป็นโรคเบาหวานที่สามารถรับประทานได้ และ คนที่มีไขมันในเลือดสูงเช่นเดียวกัน จากการทดลองในสัตว์ไม่พบพิษเฉียบพลัน ดังนั้น "หญ้าหวาน" จึงมีแนวโน้มที่ดีในการที่จะนำไปใช้ในเชิงอุตสาหกรรม ทำเป็นเครื่องดื่ม อย่างไร ก็ตาม ควรวิจัยถึงพิษระยะยาวด้วยว่าจะมีผลต่อการใช้หรือบริโภคหรือไม่ จะได้ไม่มีปัญหาในภายหลัง
ปัจจุบัน "หญ้าหวาน" นอกจากพบมีการเพาะขยายพันธุ์ปลูกที่สวนของเพื่อน "นายเกษตร" ดังกล่าวแล้ว มีผู้นำต้นไปวางขายที่ตลาดนัดไม้ดอกไม้ ประดับ สวนจตุจักร ทุกวันพุธ-พฤหัสฯ บริเวณ แผง"คุณตุ๊ก" หน้าตึกกองอำนวยการ และยังนำไปวางขายในงาน "สมุนไพรแห่งชาติ" ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 1 ก.ย. ถึงวันที่ 5 ก.ย. ที่เมืองทองธานี บริเวณโซน7-8 อีกด้วย ส่วนราคาสอบถามกันเองครับ.
|